วันอังคารที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2556


ต้นมิสเซิลโท(Mistletoe)

 ว่ากันว่าใครที่จูบกันใต้ต้นมิสเซิลโทจะได้แต่งงานกันและครองคู่ไปตลอด
 เป็นคำสัญญาแห่งรัก ว่าจะรักเป็นคู่รักที่รักกันตราบชั่วฟ้าดินสลาย 





วันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ValentinesDay
The first legend, and perhaps the best known, began in Rome, when the Emperor, Claudius II, was involved in many bloody and unpopular campaigns. “Claudius the Cruel” as he was called, was having a difficult time getting soldiers to join his military leagues.
ตำนานแรก และบางทีก็เป็นที่รู้จักกันดีแล้ว ได้เกิดขึ้นที่กรุงโรม เมื่อจักรพรรดิ คลาวดิอุสที่สอง ซึ่งเป็นบุคคลที่ชอบใช้นโยบายการนองเลือดประหัตประหารกัน อันไม่เป็นที่ยอมรับกันทั่วไป และเขาเรียกตัวเขาเองว่า “คลาวดิอุสผู้โหดร้าย” ในตอนนี้การเกณฑ์ทหารเข้ากองทัพเป็นสิ่งที่ลำบากยากเย็นมาก
He believed that the reason was that Roman men did not want to leave their loves or families. So, he cancelled all marriages and engagements in Rome!
เขาเชื่อว่าเป็นเพราะเหตุหนุ่มชาวโรมไม่อยากจากคนรักและครอบครัวนั่นเอง ดังนั้นเขาก็เลยยกเลิกพิธีแต่งงานและการหมั้นหมายในกรุงโรม
The good Saint Valentine, who was a priest in Rome, in the year 269 A.D., together with his friend Saint Marius, defied Claudius and continued to perform marriages for young lovers in secret.
นักบุญผู้ใจดีชื่อ วาเลนไทน์ ซึ่งเป็นบาทหลวงในกรุงโรม ในปี 269 พร้อมกับเพื่อนชื่อ นักบุญมาริอุส ไม่ยอมรับกฎเกณฑ์ของจักรพรรดิคลาวดิอุส และยังคงประกอบพิธีการแต่งงานอย่างลับๆ
When Valentine’s actions were discovered, he was sentenced to be beaten to death with clubs and to have his head cut off.
เมื่อการประกอบพิธีกรรมของบาทหลวงวาเลนไทน์ถูกจับได้ ท่านก็ถูกลงโทษด้วยการตีจากไม้กระบองจนเสียชีวิต และถูกตัดศีรษะด้วย
But while in prison, it is believed that Valentine fell in love with a young girl, who may have been his jailor’s daughter, who visited him during his confinement. Before his death on the 14th day of February, it is alleged that he wrote her a letter, which he signed
” From your Valentine”
In 496 A.D., Pope Gelasius set aside February 14 to honor St. Valentine.
แต่ในขณะที่บาทหลวงอยู่ในคุก เชื่อกันว่า บาทหลงหลงรักผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นลูกสาวผู้คุมเรือนจำ ซึ่งได้เข้ามาเยี่ยมบาทหลวงตอนที่ท่านถูกกักขังในคุก ก่อนวันที่ท่านจะเสียชีวิตในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เชื่อกันว่า ท่านได้เขียนจดหมายฉบับหนึ่งลงลายมือชื่อว่า
” จากวาเลนไทน์”
ในปี 496 พระสันตะปาปา เกลาซิอุส กำหนดให้วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันรำลึกถึง บาทหลวงวาเลนไทน์
จากประวัติด้านบนสรุปแล้ว วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่เรายึดมั่นกันว่าเป็นวันแห่งความรักนั้น ที่แท้ก็คือวันมรณะภาพของบาทหลวงวาเลนไทน์นั่นเอง

วันอังคารที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556



ประวัติดอกฟอร์เก็ตมีน็อต  ( Forget-Me-Not )
คำว่า “ Forget-Me-Not” แปลว่า “ อย่าลืมฉัน ” เป็นคำพูดสุดท้ายของผู้ชายคนหนึ่งก่อนที่ความตายจะมาพรากเขาไปจากสาวคนรัก หนุ่มคนนี้มีชีวิตอยู่ในประเทศฝรั่งเศสเมื่อหลายร้อยปีมาแล้ว เขาเป็นอัศวินผู้กล้าหาญ ซึ่งมีคนรักเป็นสาวงาม ครบสูตรคู่รักเพอร์เฟ็คของสมัยนั้น วันหนึ่งทั้งคู่ไปเดินเล่นริมแม่น้ำ บังเอิญสาวคนรักเหลือบไปเห็นดอกไม้แปลกหน้าสีม่วงเข้มสดใส ซึ่งไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ชูดอกงามอยู่ริมตลิ่ง เธอก็เลยขอร้องคนรักให้ลงไปเก็บให้ ซึ่งเขาก็ทำตามโดยดี แต่โชคร้ายที่ตลิ่งลื่นมาก และตัวเขาก็ใส่เสื้อเกราะเหล็กซึ่งหนักอึ้งอยู่ ชายหนุ่มก็เลยลื่นตกลงไปในแม่น้ำที่เชี่ยวกราก เขาพยายามตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอด แต่เพราะน้ำหนักเสื้อทำให้เขาจมลงไปทุกที ชายหนุ่มรู้จุดจบของเขาคงจะมาถึงแน่แล้ว เขาจึงโยนดอกไม้ดอกงามขึ้นไปให้สาวคนรักและตะโกนบอกเธอเป็นประโยคสุดท้ายว่า “ Ne moubliez pas... อย่าลืมฉันนะที่รัก ” จากนั้นร่างของเขาก็จมลงหายไปในแม่น้ำ “ ดอก Forget Me Not ” (เป็นคำในภาษาอังกฤษแปลว่าอย่าลืมฉัน) จึงถูกตั้งให้เป็นตัวแทนของรักแท้ที่ไม่มีวันดับ เหมือนความรักของอัศวินหนุ่มกับสาวคนรักนั้นเอง

วันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2556


วันคริสต์มาส

Christmas or Christmas Day is an annual holiday celebrated on December 25 that
commemorates the birth of Jesus of Nazareth. The date of commemoration is not known to be
Jesus' actual birthday, and may have initially been chosen to correspond with either a historical Roman
festival or the winter solstice. Christmas is central to the Christmas and holiday season, and in Christianity marks the beginning of the larger season of Christmastide, which lasts twelve days.

วันคริสต์มาสเป็นวันหยุดประจำปี ที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการประสูติของพระเยซูซึ่งตรงกับวันที่ 25 ธันวาคม โดยวันดังกล่าวอาจจะไม่ตรงกับวันเกิดจริงๆของพระเยซู แต่อาจจะเป็นวันที่ถูกเลือกเอาไว้เพื่อให้สอดคล้องกับเทศกาลโรมัน หรือสอดคล้องกับวันที่มีช่วงเวลากลางวันสั้นที่สุด (winter solstice)คริสต์มาสเป็นเทศกาลที่สำคัญ และมีการฉลองอย่างยิ่งใหญ่ ในย่านของชาวคริสเตียนนั้นจะมีการจัดเทศกาลนี้ยาวนานถึง 12 วัน

Although traditionally a Christian holiday, Christmas is widely celebrated by many non-Christians, andsome of its popular celebratory customs have pre-Christian or secular themes and origins. Popular modern customsof the holiday include gift-giving, Christmas carols, an exchange of greeting cards, church celebrations, a special meal,and the display of various decorations; including Christmas trees, lights, and garlands, mistletoe, nativity scenes, and holly. In addition, Father Christmas (known as Santa Claus in North America and Ireland) is a popular mythological figure in many countries, associated with the bringing of gifts for children.

แม้ว่าวันคริสต์มาสจะเป็นเทศกาลของชาวคริสต์ แต่ในหมู่คนที่ไม่ใช่ชาวคริสต์ก็มีการเฉลิมฉลอง
กันอย่างแพร่หลายเช่นกัน ซึ่งการเฉลิมฉลองนั้นมีทั้งแบบสมัยใหม่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับศาสนาเลยกับอีก
แบบหนึ่งคือแบบดั้งเดิม โดยประเพณีที่เป็นนิยมในสมัยใหม่นั้น ได้แก่ การมอบของขวัญ การแลกเปลี่ยนการ์ดอวยพร
การจัดงานเลี้ยงฉลองในโบสถ์ การรับประทานอาหารมื้อพิเศษ และการโชว์งานตกแต่งประดับประดาตามสถานที่ต่าง ๆด้วย ต้นคริสต์มาส ดวงไฟประดับ พวงดอกไม้ ต้นมิสเซิลโท การแสดงเกี่ยวกับวันประสูติของพระเยซู และต้นฮอลลี่
นอกจากนี้บิดาแห่งคริสต์มาส (หรือที่ชาวอเมริกาเหนือและไอร์แลนด์เรียกว่า ซานตาคลอส) ยังเป็นหนึ่งตำนานที่เป็น
ที่รู้จักกันว่าเป็นผู้นำของขวัญมามอบให้กับเด็ก ๆ

Because gift-giving and many other aspects of the Christmas festival involve heightened economic
activity among both Christians and non-Christians, the holiday has become a significant event and a key
sales period for retailers and businesses. The economic impact of Christmas is a factor that has grown
steadily over the past few centuries in many regions of the world.

 เนื่องจากการมอบของขวัญและการฉลองทั้งหลายนี้ ส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจสูงมาก ทั้งในเมืองของชาวคริสเตียน และที่ไม่ใช่ชาวคริสเตียนเทศกาลคริสต์มาสจึงกลายเป็นช่วงเวลาที่สำคัญในการขายของสำหรับเหล่าพ่อค้าและนักธุรกิจการที่ระบบเศรษฐกิจได้รับการกระตุ้นจากเทศกาลนี้คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการเติบโตอย่างต่อเนื่องในทั่วทุกพื้นที่ในช่วง 2-3 ศตวรรษที่ผ่านมานี้